มินามิโนะ แม้ว่าผลงานโดยรวมของ ทาคูมิ มินามิโนะ จะไม่ได้สวยหรูเหมือน โมฮาเหม็ด ซาลาห์, ซาดิโอ มาเน่, โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ หรือ ดีโอโก้ โชต้า

14 ประตูจากการลงเล่น 55 นัดในทุกรายการ คือผลงานส่วนตัวของ มินามิโนะ ในสีเสื้อ “หงส์แดง” ซึ่งในจำนวนนั้นคือการทำไป 4 ประตู ในเกม คาราบาว คัพ ของซีซั่น 2021-22 และ 3 ลูกในศึก เอฟเอ คัพ
ของฤดูกาลเดียวกัน ก่อนที่ทีมของกุนซือ เจอร์เก้น คล็อปป์ จะก้าวขึ้นไปเป็นแชมป์ในทั้ง 2 รายการนั้นได้

ผลงานแบบนั้นทำให้ มินามิโนะ ถือเป็นดาวซัลโวสูงสุดของ ลิเวอร์พูล ในทั้ง 2 รายการดังกล่าว และในประวัติศาสตร์ของพวกเขานั้น มันก็มีนักเตะเพียงไม่กี่คนที่เป็นดาวซัลโวสูงสุดของทีมในทั้ง 2 รายการที่ว่าในฤดูกาลเดียวกัน และวันนี้เราจะย้อนไปดูกันว่าครั้งไหนที่เคยเกิดเรื่องแบบนั้นบ้าง
– เซอร์ เคนนี่ ดัลกลิช

ในฤดูกาล 1980-81 ลิเวอร์พูล จอดป้ายเพียงแค่รอบ 4 ในศึก เอฟเอ คัพ หรือก็คือพวกเขาได้ลงเล่นไปแค่ 2 เกมเท่านั้น (ลิเวอร์พูล เริ่มแข่งตั้งแต่รอบ 3)
และ ดัลกลิช ก็คือคนที่ทำประตูในรายการนั้นได้มากที่สุดด้วยจำนวน 2 ประตู ซึ่งเกิดขึ้นในรอบ 3 ที่ทีมของกุนซือ บ็อบ เพสลี่ย์ เอาชนะ อัลทรินแช่ม 4-1
ในทางตรงกันข้าม ในศึก ลีก คัพ (ชื่อเดิมของ คาราบาว คัพ) ลิเวอร์พูล ไปถึงตำแหน่งแชมป์ได้ ซึ่งส่วนสำคัญก็มาจากการทำไปทั้งหมด 7 ประตูของ ดัลกลิช โดยเขามีชื่อบนสกอร์บอร์ด 5 เกมด้วย โดยหนึ่งในนั้นคือเกมรอบรองชนะเลิศ นัดสองที่เสมอกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 1-1
– เอียน รัช

รัช ถือเป็นหนึ่งในดาวยิงที่เก่งที่สุดตลอดกาลของ ลิเวอร์พูล ซึ่งหนึ่งในสิ่งที่ยืนยันถึงเรื่องนั้นได้เป็นอย่างดีก็คือการที่เขาเป็นดาวซัลโวสูงสุดของทั้ง เอฟเอ คัพ และ ลีก คัพ ในฤดูกาลเดียวกันให้กับทีมได้ถึง 3 ครั้ง ประกอบด้วยซีซั่น 1981-82, 1983-84 และ 1990-91
สำหรับฤดูกาล 1981-82 นั้น ลิเวอร์พูล จอดป้ายที่รอบ 5 ด้วยผลงาน 3 ประตูของ รัช แต่เขายิงได้ 8 ลูกใน ลีก คัพ จนทำให้ทีมป้องกันแชมป์ได้ ส่วนในซีซั่น 1983-84 รัช ยิงได้ 2 ลูกใน เอฟเอ คัพ
ก่อนที่ทีมจะตกรอบ 4 อย่างไรก็ตาม ในศึก ลีก คัพ เขาทำได้ถึง 8 ลูกจนทำให้ทีมซิวแชมป์มาครองได้ ขณะที่ฤดูกาล 1990-91 รัช ทำได้ 5 ประตูทั้งใน เอฟเอ คัพ และ ลีก คัพ แต่ทีมก็ตกรอบ 5 กับรอบ 3 ตามลำดับ
– ร็อบบี้ ฟาวเลอร์

1995-96 ถือเป็นฤดูกาลที่น่าผิดหวังสำหรับ ลิเวอร์พูล หลังจากที่พวกเขาไม่ได้แชมป์ไปครองแม้แต่รายการเดียว อย่างใน ลีก คัพ ก็จอดป้ายเพียงแค่รอบ 4 ส่วนใน เอฟเอ คัพ ถึงแม้จะไปถึงรอบชิงชนะเลิศได้ แต่สุดท้ายก็ต้องแพ้ให้กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด หนึ่งในคู่อริตัวฉกาจของพวกเขา
ถึงกระนั้น สำหรับตัว ฟาวเลอร์ เองนั้น นั่นเป็นฤดูกาลที่ทำให้เขาได้ถูกจารึกชื่ออยู่ในสถิติแขนงเดียวกับ ดัลกลิช และ รัช เพราะใน ลีก คัพ เขาเป็นดาวซัลโวสูงสุดของทีมด้วยการทำได้ 2 ลูก
ขณะที่ใน เอฟเอ คัพ เจ้าตัวทำได้ 6 ประตู โดยในรายการหลังนั้นนอกจากรอบ 6 ที่เสมอกับ ลีดส์ ยูไนเต็ด 0-0 และรอบชิงชนะเลิศแล้วนั้น ฟาวเลอร์ มีสกอร์ติดตัวทั้งหมด
– สตีเว่น เจอร์ราร์ด

ในฤดูกาล 2005-06 ลิเวอร์พูล ต้องจบเส้นทางในศึก ลีก คัพ ตั้งแต่รอบ 3 หรือการลงเล่นนัดแรกของพวกเขาในรายการดังกล่าว จากการแพ้ คริสตัล พาเลซ 1-2 ซึ่ง เจอร์ราร์ด คือคนที่ทำประตูให้กับทืมในวันนั้น
อย่างไรก็ตาม ในศึก เอฟเอ คัพ ลิเวอร์พูล ไปไกลจนถึงขั้นเป็นแชมป์ ซึ่ง เจอร์ราร์ด ทำได้ถึง 4 ประตูด้วยกัน โดยในจำนวนนั้นคือ 2 ลูกที่เขาทำได้ในนัดชิงชนะเลิศ ซึ่งมันก็ช่วยให้ ลิเวอร์พูล เสมอกับ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด 3-3 ก่อนที่พวกเขาจะไปชนะในช่วงดวลจุดโทษได้
ฤดูกาลที่ดาวซัลโวสูงสุดของ ลิเวอร์พูล ใน เอฟเอ คัพ กับ ลีก คัพ เป็นคนเดียวกัน

อ่านข่าวสารบอลสดได้ที่เราฟุตบอล – GOz88 สำหรับใครที่หาเว็บ แทงบอล ดีๆแอดมินแนะนำเว็บนี้เลย abcgame888 บริการดี ราคาดี เป็นกันเองหรือหากท่านหาเว็บ สล็อต แตกง่าย จ่ายจริง ต้องนี่
เลย Superslot สำหรับใครที่ชอบ ดูอนิเมะ ยอดฮิตของญี่ปุ่นแอดขอแนะนำนี่เลยดูฟรีไม่มีสะดุดอัพเดทก่อนใครแนะนำเว็บอนิเมะ ดูฟรี ไม่มีโฆษณา มีทั้งพากย์ไทย ซับไทย คลิก ดูอนิเมะออนไลน์ ได้เลย ติดตามข่าวสาร สล็อต อัพเดทเกมไหม่ๆสนใจคลิกเลย Slotded